" ข้าวแช่ชาววัง หรือ ข้าวแช่เสวย " ที่หลายคนคงจะคุ้นหู และ เคยลิ้มรสกันมาบ้าง แต่น้อยคนนักที่จะรู้ถึงที่มาที่ไปในความหลากหลายของข้าวแช่ เพราะไม่ใช่แค่เพียงหน้าตาที่สวยงาม ผักสดที่แกะสลักจนสละสลวย รสชาติที่เป็นเอกลักษณ์เท่านั้น ข้าวแช่ ยังมีประวัติความเป็นมาที่ยาวนานและยังมีความน่าสนใจอื่นๆ อีกด้วย
ข้าวแช่ มีต้นกำเนิดดั้งเดิมมาจากชาวมอญ ตั้งแต่สมัยรัตนโกสินทร์ มักจะทำขึ้นในพิธีตรุษสงกรานต์เพื่อเป็นเครื่องสังเวยถวายเทวดา และ พระสงฆ์เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ผู้ถวาย แต่ด้วยความที่คนไทยกับคนมอญมีการติดต่อแลกเปลี่ยนกันทางวัฒนธรรมมายาวนาน ทำให้
ข้าวแช่ กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของตำรับไทยได้อย่างกลมกลืน จนกระทั่งได้มีหญิงชาวมอญได้เข้ารับราชการในฝ่ายใน และ ได้ทำ
ข้าวแช่ ถวายเป็นเครื่องเสวย ทำให้ได้เลื่อนขั้นเป็น
ข้าวแช่ชาววัง ชื่อเรียกที่ติดปาก และ เมนูยอดนิยมประจำหน้าร้อนของคนไทยมาจวบจนปัจจุบัน เสน่ห์ของ
ข้าวแช่ เองก็อยู่ที่กรรมวิธีการปรุงที่พิถีพิถัน เพราะมีขั้นตอน และ องค์ประกอบที่หลากหลายกว่าจะได้มาซึ่ง
ข้าวแช่ ที่มีกลิ่นของดอกไม้ซึ่งหาได้ง่ายในช่วงฤดูร้อน เพิ่มความอร่อยด้วยเครื่องเคียงต่างๆ อย่างเช่น ลูกกะปิทอด ปลายี่สกผัดหวาน พริกหยวกสอดไส้ หอมแดงชุปแป้งทอด แก้เลี่ยนด้วยผักสดกลิ่นหอมๆ ที่มีรสเปรี้ยวและเฝื่อน และ สลักให้สวยงามชวนน่ารับประทาน เช่น มะม่วง กระชาย แตงกวา ต้นหอม และ พริกชี้ฟ้า เวลารับประทานให้ตักน้ำลอยดอกไม้ให้ได้สัดส่วนกับข้าวหอมมะลิ ใส่น้ำแข็งเกล็ดเล็กน้อยให้พอชื่นใจ จากนั้นให้รับประทานกับข้าวก่อน แล้วจึงตามด้วย
ข้าวแช่ ก็จะได้รสชาติที่กล่อมกล่อม และ เย็นสดชื่นในคราวเดียวกัน
นี่คือสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงวัฒนธรรมการรับประทานอันสวยงามที่สืบทอดกันมาแต่โบราณของคนไทยในสมัยก่อน และ ในช่วงหน้าร้อนนี้
ห้องอาหารเดอะ คาเฟ่ โรงแรมมณเฑียร ริเวอร์ไซด์ ก็ได้เตรียม "
ข้าวแช่ชาววัง " ไว้บริการแก่ทุกท่านให้ได้มาลิ้มรส และ ลิ้มลองความอร่อยฉบับต้นตำรับชาววัง ที่นอกจากจะอิ่มท้องแล้วได้มาร่วมสืบทอดวัฒนธรรมการรับประทานที่สวยงามให้สืบต่อไปอีกด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น